. คำถามที่พบบ่อย OpticSlim OS550 |
|
และ Guest Profile |
|
1. สแกนแล้วเป็นเส้นแนวตั้งเป็นสีรุ้งแปลกๆ หรือตัวอักษรซ้อนกัน คลิกทีนี่ | |
2. ปุ่มกดที่ตัวเครื่องกดไม่ได้ คลิกทีนี่ | |
3. ไฟไม่เข้าตัวเครื่อง คลิกทีนี่ | |
4. สแกนแล้วสีเพี้ยน คลิกทีนี่ | |
5. หลังจากสแกนพาสปอร์ตแล้วทำ OCR ไม่ได้ คลิกทีนี่ | |
6. อ่าน Passport ทุกประเทศได้หรือไม่ คลิกทีนี่ | |
7. การเช็ดกระจกสแกนที่ถูกต้องควรทำอย่างไร คลิกทีนี่ | |
8. Passport scanner สามารถอ่านข้อมูลจากพาสปอร์ตประเทศใดได้บ้าง คลิกทีนี่ | |
9. หนังสือเดินทาง (Passport) มีกี่ประเภท คลิกที่นี่ | |
10. สีของปกหนังสือเดินทาง (Passpor) มีกี่สี ต่างกันอย่างไร คลิกที่นี่ | |
1.ถาม | สแกนแล้วเป็นเส้นแนวตั้ง หรือเป็นสีรุ้งแปลกๆ หรือตัวอักษรซ้อนกัน |
ตอบ | 1. ส่งซ่อมที่บริษัท |
2.ถาม | ปุ่มกดที่ตัวเครื่องกดไม่ได้ |
ตอบ | 1. ปุ่มกดเสีย ส่งกลับมาซ่อมที่บริษัท |
3.ถาม | ไฟไม่เข้าตัวเครื่อง |
ตอบ | 1. อแดปเตอร์เสีย ส่งกลับมาซ่อมที่บริษัท |
4.ถาม | สแกนแล้วสีเพี้ยน |
ตอบ | 1. ให้ทำการ Calibrate สแกนเนอร์ ทำได้โดยไปที่ |
Start--> program files --> Plutek OpticSlim 550 --> Calibration wizard จากนั้น ทำตามขั้นตอนโดยการกด Next ไปเรื่อยๆ จนเสร็จสิ้นขบวนการ | |
5.ถาม | หลังจากสแกน Passport แล้วทำ OCR ไม่ได้ |
ตอบ | 1. เกิดจากวาง Passport ผิดตำแหน่ง ให้ใช้มือกด Passport ให้แนบกับกระจกสแกน |
และวางให้ชิดมุมบนขวา ตามภาพ | |
6.ถาม | อ่าน Passport ทุกประเทศได้หรือไม่ |
ตอบ | 1. ได้ทั้งหมด เว้นแต่ Passport ที่เป็นแบบเขียน ไม่สามารถอ่านได้ |
7.ถาม | การเช็ดกระจกสแกนที่ถูกต้องควรทำอย่างไร |
ตอบ | 1. เช็ดบริเวณกระจกสแกนด้วยผ้าสะอาดไม่มีขน สามารถใช้น้ำยาเช็ดกระจกได้ |
แต่เวลาฉีดน้ำยาต้องให้อยู่บริเวณกลางกระจก ห้ามฉีดทั่วทั้งแผ่น เพราะคราบฝุ่น จากการเช็ดและน้ำยาเช็ดกระจกอาจเล็ดลอดเข้าไปในสแกนเนอร์ได้ |
|
8.ถาม | Passport scanner สามารถอ่านข้อมูลจากพาสปอร์ตประเทศใดได้บ้าง |
ตอบ | 1. ทุกประเทศที่ใช้พาสปอร์ตชนิดที่อ่านได้ด้วยเครื่อง |
(Machine Readable Passport : MRP) | |
![]() |
|
9.ถาม | หนังสือเดินทาง (Passport) มีกี่ประเภท |
ตอบ | หนังสือเดินทาง แบ่งเป็นประเภทได้ดังนี้ |
1. หนังสือเดินทางกลุ่มที่ไม่สามารถอ่านได้ด้วยเครื่อง คือ หนังสือเดินทาง ที่ยังใช้วิธีการ ผลิตด้วยมือ และเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ต้องใช้ตาเปล่าในการตรวจ พูดง่ายๆ ก็คือ มีวิธีการผลิตโดยใช้กาวติดที่รูปแล้ว ปะ ลงบนหนังสือเดินทางแล้วเขียนข้อมูลต่างๆ ด้วยมือ ส่วนการตรวจที่ด่าน ตรวจคนเข้าเมือง ก็ใช้สายตาของเจ้าหน้าที่ตรวจดูว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอมหรือไม่ วิธีนี้ใช้มาตั้งแต่ยุคแรก 2. หนังสือเดินทางที่อ่านได้ด้วยเครื่อง (Machine Readable Passport : MRP) คือ หนังสือ เดินทาง ที่สามารถใช้เครื่องมืออ่านรหัสบนเล่ม และทำให้ข้อมูลไปปรากฎที่ จอคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง สามารถอ่านได้จาก จอคอมพิวเตอร์ ทำให้ระบบการตรวจคนเข้าเมือง สะดวก รวดเร็วและถูกต้องแน่นอนขึ้น 3. หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic passport) หรือที่เรียกสั่นๆ ว่า “e-passport” คือ หนังสือเดินทาง ะบบใหม่ล่าสุดที่เพิ่งจะพัฒนาขึ้น เมื่อสัก 4-5 ปี มานี้ ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ของวงการหนังสือเดินทาง ของประชาคมโลกเรา |
|
แหล่งที่มาบทความ : กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ | |
10.ถาม | สีของปกหนังสือเดินทาง (Passpor) มีกี่สี ต่างกันอย่างไร |
ตอบ | สำหรับผู้ที่ประสงค์อยากเดินทางไปต่างประเทศ สิ่งแรกที่ทุกคนต้องมีคือ |
หนังสือเดินทาง หรือที่ทุกคนเรียกว่า พาสปอร์ต (passport) ซึ่งเป็นเอกสารที่ใช้แสดงความเป็นตัวท่าน ที่ถือเป็นสากล ใช้ได้ทั่วโลก และยังเป็นสมุดบันทึกการเดินทางเข้าออกประเทศต่าง ๆ อีกด้วย หนังสือเดินทางไทย (Thai passport) เป็นหนังสือเดินทางที่ออกให้เฉพาะ ประชาชนไทย โดยกองหนังสือเดินทางกระทรวงการต่างประเทศ สามารถออกในประเทศไทยโดยหน่วยงานในสังกัด กองหนังสือเดินทาง กระทรวงการต่างประเทศ บางกรณีอาจจะออกได้ที่ สถานเอกอัครราชทูตในต่างประเทศ หรือสถานกงสุลไทยทั้ง 86 แห่ง |
|
ลักษณะของพาสปอร์ต (หนังสือเดินทาง) | |
หนังสือเดินทางประเทศไทยสำหรับประชาชนทั่วไปรุ่นปัจจุบันจะมีสีแดงเลือดหมู โดยมีตราครุฑอยู่ตรงกลางที่ปกด้านหน้า และคำว่า "หนังสือเดินทาง ประเทศไทย" (อยู่ต่างบรรทัดกัน) อยู่ด้านบนสุด ส่วนคำว่า "THAILAND PASSPORT" (อยู่ต่างบรรทัดกัน) อยู่ใต้ตราครุฑ ด้านล่างสุดจะเป็นสัญลักษณ์ของหนังสือเดินทาง ที่มีข้อมูลทางชีวภาพ (biometric passport) อักษรและสัญลักษณ์ที่หน้าปกเป็นสีทอง |
|
![]() |
|
ประเภทของพาสปอร์ต (หนังสือเดินทาง) | |
1. หนังสือเดินทางธรรมดา (หน้าปกสีแดงเลือดหมู) ออกให้สำหรับประชาชนทั่วไป หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี 2. หนังสือเดินทางราชการ (หน้าปกสีน้ำเงินเข้ม) หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี ผู้ถือต้องใช้ในราชการเท่านั้น ไม่สามารถนำไปใช้ใน การเดินทางส่วนตัว โดยมีข้อกำหนดออกเฉพาะข้าราชการเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน ที่จัดตั้งตามรัฐธรรมนูญ สมาชิกรัฐสภาซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ และบุคคลอื่นใดที่เดินทาง เพื่อทำประโยชน์แก่ทางราชการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติ 3. หนังสือเดินทางทูต (หน้าปกสีแดงสด) ประเภทนี้จะมีอายุไม่เกิน 5 ปี ไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลดังต่อไปนี้ - พระบรมวงศ์และพระนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว - พระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าและคู่สมรส - พระราชวงศ์และบุคคลสำคัญที่ราชเลขาธิการขอไปเป็นกรณีพิเศษ - ประธานองคมนตรี และองคมนตรี นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี - ประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา - ประธานศาลฎีกา รองประธานศาลฎีกา และประธานศาลอุทธรณ์ - ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และประธานศาลปกครองสูงสุด อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ - ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ - ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งเดินทางไปราชการในต่างประเทศ - ข้าราชการที่มีตำแหน่งทางการทูต ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำอยู่ ณ ส่วนราชการในต่างประเทศ คู่สมรส และบุตรในประเทศที่ประจำอยู่ หรือทำการศึกษาอยู่ในประเทศอื่น แต่บุตรจะต้องอายุไม่เกิน 25 ปี - คู่สมรสที่ร่วมเดินทางไปกับบุคคลดังกล่าวในข้อ 2-8 - บุคคลอื่นใดเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการหรือภายใต้พันธกรณีระหว่างประเทศ หรือภายใต้สถานการณ์พิเศษที่มีความจำเป็น หรือเผยแพร่ชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย 4. หนังสือเดินทางชั่วคราว (หน้าปกสีเขียว) นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ประเภทพิเศษ คือ - หนังสือเดินทางพระ ออกให้สำหรับพระภิกษุและสามเณรที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ ตามนัยระเบียบมหาเถรสมาคม - หนังสือเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจญ์ ออกให้ชาวมุสลิมที่เพื่อเดินทาง ไปประกอบพิธีฮัจญ์ หนังสือเดินทางประเภทนี้จะมีอายุ 2 ปีเท่านั้น |
|
แหล่งที่มาบทความ : กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ | |